IP Addressing

                IP address จะเป็นหมายเลขแอดเดรสขนาด 32 บิตที่แบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือหมายเลขเครือข่าย (network number) และหมายเลขโฮส์ท (host number) โดย network number จะเป็นการกำหนดเน็ตเวิร์คและต้องกำหนดโดย Internet Network Information Center (InterNIC) ถ้าต้องการให้เน็ตเวิร์คนั้นเป็นส่วนหนึ่งของอินเทอร์เนต ส่วน host number จะกำหนดโฮสท์ในเน็ตเวิร์คซึ่งอาจจะเป็นอุปกรณ์ใดๆ ในเครือข่าย เช่น เราเตอร์หรือคอมพิวเตอร์ หมายเลขโฮส์ทสามารกำหนดเองได้โดยผู้ดูแลระบบเครือข่ายนั้น

                รูปแบบของ IP แอดเดรสอาจจะแสดงเป็นกลุ่มของ 8 บิตที่แยกด้วยจุด และแสดงในรูปของเลขฐาน 10 เรียกว่า dotted decimal notation เช่น 10100001 11110110 00110000 00001011 (A1:F6:30:0B)
จะแสดงเป็น 161.246.48.11 เป็นต้น

                IP แอดเดรสจะแบ่งเป็น 5 คลาสคือ A,B,C,D และ E เฉพาะคลาส A,B และ C ที่นำมาใช้งานทั่วไป ส่วนคลาส D จะใช้ในการสื่อสารแบบ multicast และคลาส E จะถูกสำรองไว้ใช้งานในด้านการทดลอง การกำหนดคลาสจะกำหนดด้วยบิตทางซ้ายสุด (high-order) ดังตาราง

Class	Format	High-order bit	Address Range	No. bit Network/Host	Max. Network	Max. Host
A	N.H.H.H	0	1.0.0.0 - 126.0.0.0	7/24	126	16,777,214
B	N.N.H.H	10	128.1.0.0 - 191.254.0.0	14/16	16,384	65,534
C	N.N.N.H	110	192.0.1.0 - 223.255.254.0	22/8	2,097,152	254
D	n/a	1110	224.0.0.0 - 239.255.255.255	n/a	n/a	n/a
E	n/a	1111	240.0.0.0 - 254.255.255.255	n/a	n/a	n/a

Class A Networks (/8 Prefixes)

IP แอดเดรสคลาส A หมายเลขเครือข่าย (network-prefix) จะมี 8 บิต และทางบิตแรกจะถูกกำหนดให้เป็น 0 และ 7 บิตที่เหลือจะเป็นหมายเลขเครือข่าย  และส่วนที่ตามมาก็คือหมายเลขเครื่องลูกข่ายจำนวน 24 บิต  การอ้างถึงเครือข่ายประเภทคลาส A จะมีการเขียนในรูปแบบ “/8” เป็นการแสดงให้เห็นว่ามีการใช้หมายเลขเครือข่ายอยู่ 8 บิต    ค่าสูงสุดของเครือข่ายสามารถกำหนดได้ถึง 126 เครือข่าย (2⁷ – 2) การที่ต้องนำสองมาลบออกนั้น เพราะว่าที่หมายเลข 0.0.0.0 จะเป็นการกำหนดไว้สำหรับค่าดีฟอลต์เราเตอร์ (default router) และที่หมายเลข 127.0.0.0 (อาจเขียนได้เป็น 127/8 หรือ 127.0.0.0/8) เป็นการจองไว้สำหรับค่าที่ใช้เป็น “loop back address” ซึ่งเป็นแอดเดรสที่ใช้ในการส่งข้อมูลกลับมายังตัวอุปกรณ์นั้น ส่วนหมายเลขเครื่องลูกข่ายสามารถมีค่าสูงสุดได้ถึง 16,777,214 (2²⁴ -2) ต่อหนึ่งเครือข่าย และการที่ต้องทำการลบออกด้วยสองก็เพราะว่าถ้าหมายเลข IP เป็น 0 ทุกบิต จะเป็นหมายเลขของเครือข่าย (this network) และถ้าทุกบิตเป็น 1 จะเป็นหมายเลขแบบบรอดคลาสต์ (broadcast) ดังนั้นการกำหนดจำนวนหมายเลข address ทั้งหมดในชั้นนี้สามารถอ้างถึงได้ 2³¹ (2,147,483,648) ในขณะที่จำนวนค่าหมายเลข address ใน IPv4 สามารถมีค่าได้สูงสุด 2³² (4,294,967,296) ดังนั้นหมายเลข  address ใน class นี้จึงคิดเป็น 50% ของ address ใน IPv4 ในปัจจุบันนี้การกำหนด IP Address ของเครือข่ายประเภทคลาส A ไม่มีการกำหนดให้แล้ว เนื่องจากแทบไม่มีเครือข่ายใดที่มีความต้องการใช้ address มากขนาดนั้น

Class B Networks (/16 Prefixs)

                สำหรับหมายเลข IP คลาส B หมายเลขเครือข่ายจะมีขนาด 16 บิต ซึ่งทางบิตแรกสองบิตจะถูกเซตเป็น 10 เสมอ  ดังนั้นจะเหลือหมายเลขเครือข่ายที่จะอ้างถึงได้ 14 บิต และตามมาด้วยหมายเลขเครื่องลูกข่ายอีก 16 บิต สามารถเขียนได้โดยใช้ “/16” เป็นการบอกถึงเครือข่ายว่ามีขนาด 16 บิต

                ค่าสูงสุดของเครือข่ายจะมีได้ถึง 16,384 (2¹⁴ ) เครือข่าย และสามารถกำหนดเครื่องลูกข่ายได้ถึง 65,535 (2¹⁶ -2) ต่อหนึ่งเครือข่าย ดังนั้นจำนวนเลขหมายทั้งหมดที่มีได้ในชั้นนี้คือ 2³⁰ (1,073,741,824) หรือคิดเป็น 25% ของเลขหมายในทั้งหมดของ IPv4

Class C Networks (/24 Prefixs)

                ใน Class C หมายเลขเครือข่ายจะมีขนาด 24 บิต และจะมีการกำหนดสามบิตแรกให้เป็น 110 เสมอ หมายเลขเครือข่ายจึงมีขนาด 21 บิต ส่วนหมายเลขเครื่องลูกข่ายจะมีขนาด 8 บิต สามารถที่จะเขียนได้โดยใช้ “/24” เพื่อแสดงถึงจำนวนบิตในส่วนของทางด้านหมายเลขเครือข่าย

                ค่าสูงสุดของหมายเลขเครือข่ายจะมีได้ถึง 2,097,152 (2²¹) เครือข่าย และมีจำนวนเครื่องลูกข่ายถึง 254 (2⁸ -2) ต่อหนึ่งเครือข่าย ดังนั้นจำนวนเลขหมายทั้งหมดที่มีได้ในชั้นนี้คือ 2²⁹ (536,870,912) หรือคิดเป็น 12.5% ของเลขหมายทั้งหมดของ IPv4

Private IP Address Space

               เพื่อเป็นการเอื้ออำนวยให้กับเน็ตเวิร์คที่ไม่ได้เชื่อมต่อกับอินเทอร์เนต  แต่ต้องการใช้โปรโตคอล TCP/IP ทาง IANA จึงได้กำหนดช่วงของ IP address จำนวนหนึ่ง ซึ่งจะไม่นำมาใช้ในอินเทอร์เนต เรียกว่า Private address space ซึ่งสามารถนำไปใช้ได้อย่างอิสระ แต่แอดเดรสดังกล่าวจะไม่สามารถใช้งานในอินเทอร์เนตได้

                Private IP address ในคลาสต่างๆ มีดังนี้

                คลาส A: 10.0.0.0 – 10.255.255.255

                คลาส B: 127.16.0.0 – 172.31.255.255

                คลาส C: 192.168.0.0 – 192.168.255.255

IP Address Special Case

นอกจากนี้ยังมีหมายเลข IP บางค่าที่นำมาใช้ในกรณีพิเศษคือ

 

Net ID	Subnet ID	Host ID	Source Address	Destination Address	Description
0 ทุก bit	ไม่มี	0 ทุก bit	ได้	ไม่ได้	ระบุถึงโฮสท์นี้ภายในเน็ตเวิร์คนี้
0 ทุก bit	ไม่มี	Host ID	ได้	ได้	ระบุถึงโฮสท์ตาม Host ID ในเน็ตเวิร์คเดียวกัน
127	ไม่มี	any	ได้	ได้	แอดเดรสภายในของโฮสท์ (loop back address)
1 ทุก bit	ไม่มี	1 ทุก bit	ไม่ได้	ได้	บอร์ดแคสท์เฉพาะภายในเน็ตเวิร์ค
Net ID	ไม่มี	1 ทุก bit	ไม่ได้	ได้	บอร์ดแคสท์ในซับเน็ตเวิร์คที่ระบุโดย Net ID
Net ID	Subnet ID	1 ทุก bit	ไม่ได้	ได้	บอร์ดแคสท์ในซับเน็ตเวิร์คที่ระบุโดย Subnet ID
Net ID	1 ทุก bit	1 ทุก bit	ไม่ได้	ได้	บอร์ดแคสท์ในทุกซับเน็ตเวิร์คภายในที่ระบุโดย Net ID

<<< หน้าที่แล้ว หน้า 2

[ Home ]