|
ระบบกระจายสายอัตโนมัติ
( Automatic Call Distribution
)
นี่เป็นหัวใจสำคัญของคอลล์เซ็นเตอร์ใดๆ
ระบบจะทำหน้าที่กระจายสายให้แก่
พนักงานรับสายทุกคนอย่างทั่วถึง
ระบบนี้แตกต่างจากการทำงานในแบบ
Call Hunting
ของชุมสายภายใน
( PBX ) เพราะ Call Hunting
จะมีการทำงานหลัก
อยู่ 2 แบบ
คือ....
แบบเส้นตรง
( Linear
) ในแบบนี้ระบบจะส่งหาพนักงานคนแรกในกลุ่มเสมอ
เมื่อคนที่หนึ่งไม่ว่าง
ก็จะหาคนถัดไป
แบบวน
( Cyclic
) ในแบบนี้ระบบจะจำไว้ว่า
ส่งสายไปให้แก่สมาชิกคนใดในกลุ่มแล้ว
เมื่อมีสายเข้ามา
ระบบก็จะส่งสายต่อไปให้
พนักงานคนถัดไปทันที
โดยทั่วไป
ชุมสายภายในจะสร้างรหัสให้แก่พนักงานในกลุ่มไว้
สำหรับทำการ
Login และ Logout
เพื่อให้พนักงานได้พักบ้าง
ดูเผินๆ
การทำงานของ
Call Hunting
ก็น่าจะเพียงพอแล้วสำหรับการทำงานแบบคอลล์
เซ็นเตอร์
แต่การทำงานแบบนี้
ไม่ได้คำนึงถึงระยะเวลาเฉลี่ยที่พนักงานแต่ละคนคุยในสาย
ไม่ได้คำณวนถึงเวลาพัก
หรือ
เข้าห้องน้ำ
ของพนักงานแต่ละคน
ทำให้ไม่สามารถกระจายสายได้อย่างสม่ำเสมอ
รวมทั้งไม่สามารถสร้างรายงานได้ด้วย
ว่า
ระยะเวลาเฉลี่ยที่พนักงานแต่ละคนคุยเป็นเท่าไร
รับวันละกี่สาย
และนี่คือสิ่งที่ระบบกระจายสายอัตโนมัติ
( ACD )
เข้ามาแทนที่
วีธีการคำณวนว่า
แต่ละสายที่โทรเข้าจะส่งไปให้พนักงานคนไหนนั้นเป็นศาสตร์ที่มีสูตรการคำณวน
โดยพิจารณาหลายๆ
ตัวแปร
แต่เนื่องจาก
ACD
เป็นสินค้าที่มีมานาน
พอที่ผู้ผลิตแต่ละรายสามารถผลิตสินค้าได้ออกมาไกล้เคียงกันในเรื่องนี้
จนไม่เป็นจุดขายอีกต่อไป
ว่าใครกระจายสายได้ดีกว่ากัน
อย่างไรก็ตาม
เมื่อไม่เกินปีที่แล้ว
มีนักวิทยาศาสตร์จาก
Bell Lab
เสนอวีธีการคำณวนใหม่เพราะเห็นว่า
วิธีการคำณวนในปัจจุบันไม่แม่นยำนักในทาง
ทฤษฎีแต่เรื่องนี้น่าจะเป็นหัวข้อที่จำกัดในวงวิชาการ
มากกว่าที่จะนำมาพิจารณาในทางปฏิบัติ
โดยทั่วไป ACD
เป็นลูกเล่นเพิ่มเติมจาก
PBX นั่นคือ
คุณ
ต้องซื้อ ACD
จากผู้ผลิต
PBX
ทั้งนี้ผู้ผลิต
PBX
รายใหญ่ระดับโลกที่มีอยู่ในเมืองไทยมีขาย
ACD
เกือบทุกราย
เช่น ALCATEL,
ERICSSON,ฯลฯ
แต่มีผู้ผลิต
อย่างน้อยสองรายที่ผลิตเครื่อง
ACD
อย่างเดียว
โดยไม่ทำ PBX
นั่นคือ Aspect
และ Rockwell
|
แยกเป็นการทำงานย่อยๆ
ลงไปได้อีกเป็นหน่วยย่อยๆ
ดังนี้ คือ....
สถาปัตยกรรมของระบบ
และการทำงานหลัก
...........................................................................................................................
ในปัจจุบัน
ACD
มักเป็นโปรแกรมสำเร็จรูปที่มีอยู่แล้วใน
PBX
โดยที่คุณต้องจ่ายเงินเพิ่ม(
ตามจำนวนพนักงานรับสายที่คุณต้องการ
)
และเนื่องจาก
ACD
ต้องเก็บข้อมูลของสายที่วิ่งเข้ามาในระบบเป็นจำนวนมาก
ทำให้ผู้ผลิต
ACDทุกรายจะมี
database server
อยู่ภายนอก
PBX
( หรือ ACD )
เพื่อเก็บข้อมูลโดยเฉพาะ
ทั้งนี้ทำให้ถึงแม้ว่า
database server จะล่ม
ก็ไม่ได้ทำให้ระบบ
ACD ล่มไปด้วย
แต่ก็มีผู้ผลิต
ACD บาง
รายออกแบบให้มี
ACD servser
อยู่ภายนอกโดยให้
PBX
ทำงานตามคำสั่งของ
ACD server ตัวนี้
โดยที่ ACD server
นี้ทำหน้าที่เก็บข้อมูล
( Database ) ด้วย
เดิมที
การต่อเชื่อม
ACD server ( หรือ Database server )
เข้ากับ PBX มักใช้พอร์ตอนุกรม
( Serial Port / V.24 )
ซึ่งมีข้อ
จำกัดที่ความเร็ว
9600 bps (
เป็นข้อจำกัดของชิป
8250
ในเวลานั้น
)
และข้อจำกัดด้านความเร็วนี้เอง
ทำให้ ACD
ในอดีตมักจะตาย
หรือแฮงก์
(
Hang )
เมื่อมีปริมาณสายเข้ามาสูง
ซูเปอร์ไวเซอร์จะทราบอาการนี้ได้ทันที
เพราะจะไม่มีสายวิ่งเข้ามาหาพนักงานเลย
เพราะซูเปอร์ไวเซอร์ต้องทำการรีเซ็ท
พอร์ตเพื่อให้ระบบเข้าสู่สภาพเดิม
ปัจจุบัน
ข้อจำกัดเรื่องนี้ดูเหมือนจะหายไปแล้ว
เนื่องจากหลายๆ
รายนำการทำงานของ
ACD
server
ไปไว้บน PBX
แทน
โดยเหลือแต่
Database server
ไว้ภายนอก
แต่ก็มีผู้ผลิตบางรายที่ยังการทำงานของ
ACD ไว้บน Server
แต่เปลี่ยนจากพอร์ตอนุกรม
ไปเป็น LAN แบบ
10 Base T แทน
ซึ่งทำให้ปัญหาลดลงมาก
แต่ทั้งนี้คุณควรตรวจสอบเสมอ
ว่า Traffic
ที่สูงที่สุดของเจ้า
ACD server
นี้มีค่าเท่าไร
สิ่งที่พูดถึงกันมากขึ้น
ในช่วงสอง-สามปีที่ผ่านมาคือ
Skill-based Routing
นั่นคือการที่ระบบสามารถส่งสายไปยังพนักงานที่มี
ความสามารถเฉพาะทาง
เช่น
พนักงานที่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้
หรือพนักงานที่ได้รับการอบรมสำหรับสินค้าพิเศษ
อย่างไรก็
ตาม คอลล์
เซ็นเตอร์
นั้น
ต้องมีระบบตอบรับอัตโนมัติ
เพื่อทำการแยกสายนั้นออกก่อน
เช่น
ถามว่าผู้ที่โทรเข้า
ต้องการทราบข้อมูลของสินค้า
ชนิดใด
เมื่อผู้โทรเข้ากดหมายเลขแล้ว
ACD
จึงส่งสายนั้นไปยังพนักงานที่มีความสามารถดังกล่าว
ACD
แต่ละรายจะมีข้อจำกัดในด้านนี้ต่างๆ
กันไป
บางระบบสามารถให้พนักงานมีความสามารถ
( หรือ Skill )
ได้ถึง 20-30
อย่าง
แต่แนวโน้มในปัจจุบันระบบ
CTI สามารถทำหน้าที่แทน
ได้แล้ว
และทำให้ ACD
มีหน้าที่แค่กระจายสายอย่างเดียวจริงๆ
อย่างไรก็ดี
การนำ CTI
มาทำหน้าที่แทน
ACD
ยังมีราคาสูงมากเมื่อเทียบกับ
การลงทุนใช้งาน
ACD ล้วนๆ
โปรแกรมควบคุม
และดูแลการทำงาน
( Real - time Monitoring Tool )
......................................................................................................................
โปรแกรมนี้ทำหน้าที่เป็น
หน้าต่างให้กับผู้ดูแล
คอลล์
เซ็นเตอร์
ว่าขณะนี้ระบบเป็นอย่างไรมีพนักงาน
รับสายจำนวนเท่าไร
มีพนักงานพักจำนวนเท่าไร
พนักงานที่พักอยู่นั้น
พักไปทำอะไร
เช่น พัก
เที่ยงหรือเข้า
ห้องน้ำ
บางระบบมีข้อจำกัดด้านเวลาในการส่งข้อมูลล่าสุดมาที่หน้าจอ
เช่น
จะส่งข้อมูลทุกๆ
4 วินาที
บางระบบก็
สามารถส่งข้อมูลได้ทันที
บางระบบจำกัดให้มีผู้ใช้โปรแกรมได้พร้อมๆ
ในจำนวนหนึ่งโดยเป็นข้อจำกัดของระบบ
ดังนี้
เกือบทุกรายขาย
โปรแกรมนี้เป็น
Right to use License
ส่วนใหญ่จะขายเป็น
Concurrent License นั่นคือยอมให้ติดตั้งโปรแกรมนี้ได้
ไม่จำกัดเครื่อง
แต่ให้ใช้งานพร้อมกัน
ภายใต้จำนวน
License
ที่ซื้อมาเท่านั้นแต่ก็ยังมีอยู่บ้างที่จำกัด
License
ตามเครื่องที่ติดตั้งไว้ไม่สามารถ
นำโปรแกรมไปลงเครื่องอื่นได้
ราคาของ Lisence นี้แตกต่างกันค่อนข้างมาก
ต้องตรวจสอบให้ดี
เพราะบางราย
ขาย License
พร้อมเครื่อง
คอมพิวเตอร์
ทำให้ราคาขึ้นไปหลักแสน
ในขณะที่บางรายขายเป็นแค่ซอฟต์แวร์จริงๆ
หลายๆ
ครั้ง
โปรแกรมนี้เป็นตัวตัดสินการซื้อขายเลย
ทีเดียว ขอแนะนำ
ผู้ที่สนใจจะซื้อระบบ
ACD
ทุกท่านให้ตรวจสอบโปรแกรมนี้ก่อนซื้อเพราะบางรายยังเป็นโปรแกรมที่เป็น
DOS-based
หรือ Menu-based
ในขณะที่รายอื่นๆ
เป็น MS Windows
หมดแล้ว
โปรแกรมการทำรายงาน
( Reporting
Tool )
...................................................................................................................
ผู้ดูแลคอลล์
เซ็นเตอร์
ส่วนใหญ่ให้ความสำคัญในส่วนนี้มากที่สุดเนื่องจากรายงานเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการประเมินผลการทำงาน
ของพนักงาน
และนั่นหมายถึงการพิจารณารายได้ของพนักงานด้วย
อดีตระบบ ACD
ส่วนใหญ่จะมีรูปแบบรายงานสำเร็จรูปที่มีมาให้ในระบบ
และไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
แต่ปัจจุบันโปรแกรมการทำรายงานของ
ACD
เปลี่ยนไปมากแล้ว
รายงานสำเร็จรูปที่มีมาแล้วในระบบ
มักจะ
มีมากพอสำหรับความต้องการของ
คอลล์
เซ็นเตอร์
ส่วนใหญ่
และสามารถแปลง
( Port )
มาใช้งานใน
MS Excel
ได้อีกด้วย
นอกเหนือจากราย
งานที่มีในระบบแล้ว
โปรแกรมนี้ยังเปิดให้เราสามารถออกแบบรายงานตามที่เราต้องการ
( customize report )
ได้ด้วย
เพราะแต่ละ
คอลล์
เซ็นเตอร์
ต้องการดูหน้าตาของรายงานที่แตกต่างกันออกไป
ตรวจสอบให้ดีก่อนซื้อว่า
โปรแกรมนี้เปิดโอกาสให้เราทำตรงนี้หรือไม่
และ
สามารถออกแบบเป็นกราฟได้หรือเปล่า
หรือเป็นตัวอักษร
( Text )
อย่างเดียว
ยิ่งไปกว่านั้น
Database Server ของ ACD
ในปัจจุบันมักเป็น
RDBMS
ของค่ายใหญ่ๆ
ในโลกนี้
เช่น
ออราเคิล
ไซเบส ( Sybase )
อินฟอร์มิกซ์
หรือเอสคิวแอลเซิร์ฟเวอร์
( SQL Server )
ซึ่งสามารถใช้
Crystal Report ผ่าน ODBC interface
เพื่อสร้างรูปแบบรายงานตามที่ต้องการได้แต่คงต้องบอกไว้ก่อนว่า
คุณอาจต้องเสียเงินเพิ่มสำหรับ
ODBC interface
ที่ว่านี้
อีกนั่นแหละ
ที่สำคัญไปกว่ารูปแบบของรายงาน
คือ
ระบบบันทึกอะไรได้บ้าง
โดยพื้นฐานแล้ว
ระบบต้องสามารถบันทึกได้ว่า
พนักงานแต่ละคนรับ
โทรศัพท์คนละกี่สายต่อวัน
เฉลี่ยแล้ว
สายละกี่นาที
รับโทรศัพท์ด้วยความเร็วเท่าไร
(
โทรศัพท์ดังกี่ครั้ง
แล้วจึงรับสาย
)
รวมทั้งข้อมูลของแต่
ละกลุ่มพนักงานด้วย
(
อาจจะเป็นกลุ่มละ
8 - 10 คน )
บางระบบสามารถบันทึกได้ด้วยว่า
พนักงานแต่ละคนพลาดรับสายไปกี่สาย
ตัวอย่างเช่น
เมื่อโทรศัพท์ดังที่เครื่อง
พนักงานท่านหนึ่งเกินเวลาที่กำหนด
(
มักไม่ให้เกิน
15-18 วินาที )
ระบบจะทำการส่งสายนี้กลับเข้าคิวใหม่
และบันทึกไว้
ว่า
พนักงานคนนี้คือใคร
ขอนอกเรื่องนิดหนึ่ง
กรณีที่กล่าวข้างต้นนี้มักเรียกว่า
Ring On No Answer ( RONA )
ซึ่งต่าง
จากอีกกรณีหนึ่ง
ที่มีผู้โทรเข้ามาในระบบ
แล้ววางสายก่อนที่พนักงานจะรับโทรศัพท์
ในกรณีนี้
เรียกว่า Abandoned
Call
ซึ่งบางระบบจะแยกบันทึกไว้ด้วยว่า
Abandoned Call
นี้เกิดขึ้นขณะที่ผู้โทรเข้ามารออยู่ในคิวของระบบ
หรือ
เกิดขึ้นเมื่อ
โทรศัพท์ดังที่เครื่องของพนักงานแล้ว
ลูกเล่นของรายงานนี้มีอยู่มากและเป็นจุดขายที่ผู้ขายมักจะคุยแข่งกัน
บางระบบที่
สามารถควบคุมการจราจร
( Traffic )
ของระบบได้ด้วย
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องตรวจสอบให้ละเอียดก่อนซื้อ
-
ขายให้ดีเพราะ
ถ้าระบบไม่สามารถบันทึกข้อมูลตามที่ต้องการแล้วการประเมินคุณภาพของ
Call Center นั้นๆ
จะทำได้ยากมาก
ผู้ดูแลคอลล์
เซ็นเตอร์
ควรจะ
ออกแบบความละเอียดของรายงานให้ดี
ก่อนตัดสินใจซื้อ
เพราะรายงานที่บันทึกข้อมูลละเอียดถึงทุก
15 นาที
ต้องใช้ขนาดของฮาร์ดดิสก์เป็น
สี่เท่าของรายงานที่บันทึกข้อมูลทุก
1
ชั่วโมงจริงอยู่ว่าราคาฮาร์ดดิสก์ของพีซีจะตกลงมามากแล้วแต่
Database Server
ของหลายรายมักเป็น
เครื่อง Workstation
เช่น SUN SPARCstation
หรือ COMPAQ Proliant
ซึ่งมักจะใช้อุปกรณ์
SCSI
และมีราคาแพง
นอกจากนี้
ยังต้องมีการ
สำรอง ( Backup )
ข้อมูลซึ่งต้องมีการจัดซื้อเพิ่มด้วย
รวมทั้งถ้าคอลล์
เซ้นเตอร์
ใดต้องการบันทึกทุกสายที่โทรเข้ามา
ว่ามาจากเบอร์อะไร
ต้อง
ตรวจสอบให้ดีก่อนสั่งซื้อ
เพราะบางรายจะคิดเงินตรงนี้เพิ่ม
|
|